SCN เตรียมดัน บ.ย่อย “สแกน แอดวานซ์ เพาเวอร์” หรือ SAP เข้าระดมทุน ในตลาดหลักทรัพย์ mai ภายในปี 2567 และเตรียมขยายธุรกิจใหม่ EV Charger โซลาร์โฮม พรอ้มหาโอกาสเข้าไปศึกษาการลงทุนของธุรกิจก๊าซธรรมชาติรูปแบบใหม่ในอนาคต
ดร.ฤทธี กิจพิพิธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCN เปิดเผยว่า SCN เตรียมดัน บริษัท สแกน แอดวานซ์ เพาเวอร์ จำกัด หรือ SAP เตรียมเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ โดย SAP ประกอบธุรกิจขยายการติดตั้งโซล่ารูฟท็อปใน โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า ต่างๆ และมีรายได้จากการผลิตไฟ มีอัตราผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) ต่อของโครงการอยู่ที่ 10% ปัจจุบันมีมากกว่า 35 โครงการ รวม 25 เมกะวัตต์ เเละมีแผนนำ คาดเข้าเทรดได้ช่วงปลายปี 2567 นี้
ปัจจุบัน SCN ถือหุ้น ใน SAP อยู่ที่ 61% ขณะที่ ธุรกิจพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) ของ SCN ยังมีอยู่ที่ เมืองมินบู ซึ่งบริษัทมีโรงไฟฟ้าเฟส 1- 2 ที่สามารถจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ หรือ COD และการรับรู้รายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง คิดเป็นกำไรสุทธิที่ราว 50 ล้านบาทต่อปี
*ลุย EV Charger
อีกทั้งบริษัทเตรียมขยายธุรกิจใหม่ EV Charger โซลาร์โฮม โดยก่อนหน้านี้ที่ได้มีการศึกษาการขยายธุรกิจพลังงานเพิ่มเติม โดยวางงบลงทุน 20 ล้านบาท ทำโครงการ “Private PPA” อีวี ชาร์จเจอร์ นำร่องพื้นที่หอพัก คอนโดมิเนียม โดยมองว่าปัจจุบันผู้ใช้รถ EV มีจำนวนมากขึ้น ซึ่งคาดว่าจะสามารถเติบโตได้มากในอนาคต คาดผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) อยู่ที่ 10% รวมถึงการเข้าไปศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนของธุรกิจก๊าซธรรมชาติรูปแบบใหม่ในอนาคต
ขณะที่ธุรกิจ Oil & Gas ในปัจจุบันถือเป็นรายได้หลักของบริษัท ขณะที่ธุรกิจการขนส่งก๊าซ NGV ไปยังปั๊มน้ำมัน ซึ่งเป็นธุรกิจเดิมของ Oil & Gas ปัจจุบันปรับตัวดีขึ้นเนื่องจากราคาน้ำมันที่สูงทำให้มีการใช้ก๊าซ NGV มากขึ้น และโรงงานอุตสาหกรรมนิยมใช้แก๊ส LPG ทำให้รายได้ส่วนนี้มีการเติบโตในช่วงที่ผ่านมา บริษัทยังมีพันธมิตรจากประเทศญี่ปุ่นเข้ามาช่วยทำเสริมด้านการตลาด
นอกจากนี้บริษัทยังมีสัมปทานขนส่งก๊าซ NGV ให้แก่ ปตท. ซึ่งเป็นธุรกิจโลจิสติกส์ของบริษัท, การซ่อมบำรุงสถานี NGV ทั่วประเทศไทย ปัจจุบันคิดเป็น75% ของสถานีทั่วประเทศ ซึ่งเป็นสัญญารายได้ระยะยาว และปีนี้ยังมีการประมูล สัญญาที่หมดอายุ ซึ่งบริษัทตั้งเป้า100% ของผู้ซ่อมบำรุงสถานีทั่วประเทศไทย และบริษัทยังได้รับคัดเลือกขนส่งก๊าซธรรมชาติเพิ่มทั้งหมด 6 เขต โดยคาดว่าปริมาณการขนส่งเพิ่มเป็น 1 ล้านกิโลกรัมต่อวัน
*เป้ารายได้โต30%
อย่างไรก็ดีปัจจุบัน SCN ถือว่ามีความแข็งแกร่งในธุรกิจด้าน ธุรกิจ Oil & Gas, ธุรกิจพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) และธุรกิจขนส่ง สำหรับธุรกิจอื่น ๆ อาทิ ธุรกิจด้านการซ่อมบำรุงรถ ขสมก. ยังมีสัญญาซ่อมรถในช่วงครึ่งหลังอีก 5 ปี และคาดว่าจะได้รับรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากจำนวนรถเก่า ขณะที่รับเหมาก่อสร้าง EPC ปัจจุบันมีงานก่อสร้างปั๊มน้ำมันในมือ (Backlog) อีกราว 100 ล้านบาท ทยอยรับรู้เข้ามาต่อเนื่อง โดยบริษัทเชื่อว่าจะสามารถช่วยผลักดันรายได้รวมปีนี้ให้เติบโตที่ราว 30% จากปีก่อน